Read the Beforeitsnews.com story here. Advertise at Before It's News here.
Profile image
By Center for a Stateless Society
Contributor profile | More stories
Story Views
Now:
Last hour:
Last 24 hours:
Total:

ศัตรูผิดตัว? เมื่อฝ่ายซ้ายเกลียดเสรีนิยมยิ่งกว่าฟาสซิสม์

% of readers think this story is Fact. Add your two cents.


เควิน คาร์สัน. บทความต้นฉบับ: When Owning the Libs Trumps Fighting Fascism. 20 สิงหาคม 2025. แปลเป็นภาษาไทยโดย Kin

เร็วๆ นี้ เบธ มิตรสหายอนาธิปไตยของผมให้ความเห็นไว้ว่า “ภาพการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เรามีในหัวนั้นไม่ถูกต้อง” การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ “แทบไม่เคยมีหน้าตาเหมือนกับเหตุการณ์โฮโลคอสต์” ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสังหาร “ผู้คนนับพันนับล้านในค่ายกักกัน” แต่มักเกิดจาก “เรือนจำหรือการเนรเทศธรรมดาๆ ที่ถูกจัดการอย่างเลวร้ายจนผู้คนเริ่มเสียชีวิต มันคือการต่อยอด ไม่ใช่การตัดขาด จากการกดขี่ที่เกิดขึ้นเป็นปกติอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน

คุณจะสังเกตเห็นได้แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นภายใต้ระบอบทุนนิยม “ปกติ” เช่นกัน นั่นเพราะว่า แม้จะเป็นภัยคุกคามเฉพาะที่ต้องต่อสู้ด้วยวิธีแตกต่างออกไป แต่ฟาสซิสต์ไม่ได้คิดค้นอะไรใหม่ พวกนั้นแค่หยิบเอาเครื่องมือปราบปรามที่มีอยู่แล้วมาใช้ แล้วก็ลงมือกดขี่อย่างเต็มกำลัง [เน้นโดยผู้เขียน]

น่าเสียดายที่พวกนักเลงคียบอร์ดซ้ายๆ ทั้งหลายไม่สามารถเข้าใจระดับความซับซ้อนของประเด็นนี้ได้ สำหรับคนพวกนี้ ความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ของคำที่เราใช้เรียกสิ่งต่างๆ กลายเป็นรูปแบบหนึ่งของความยอมจำนนทางอุดมการณ์ [พวกเขามักคิดว่า] หากทุนนิยมตอนปลาย ทุนนิยมการเงิน หรือทุนนิยมแร้งกินซาก (vulture capitalism) เกี่ยวข้องกับการเร่งให้แนวโน้มที่มีอยู่แล้วในทุนนิยมรุนแรงขึ้น เราก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องใช้ชื่อเฉพาะอย่างทุนนิยมแร้งกินซาก ใครที่เรียกริชาร์ด สเปนเซอร์กับพรรคพวกว่า “กลุ่มขวาทางเลือก” (alt right) แทนที่จะเรียกตรงๆ ว่า “ฟาสซิสต์” จะถูกกล่าวหาว่าลดทอนความเป็นการเมืองแบบฟาสซิสต์ของคนเหล่านี้ลง และถ้าฟาสซิสต์แบบอเมริกันในปัจจุบันซึ่งเกิดจากขบวนการ MAGA เป็นเพียงการแตกแขนงต่อยอดจากลักษณะที่ปรากฏอยู่เดิมในวัฒนธรรมอเมริกันในระดับหนึ่ง ดังนั้นทุนนิยมอเมริกันและรัฐเสรีนิยมกระฎุมพีก็ต้องเป็นพวกฟาสซิสต์มาโดยตลอด

ปัญหาของการคิดเรื่องภาษาอย่างทื่อๆ เช่นนี้ก็คือ มันทำให้ภาษาในฐานะเครื่องมือคิดวิเคราะห์มีประโยชน์น้อยลง ครั้งหนึ่งมีคนในทวิตเตอร์เคยถามผมว่า การใช้คำว่า “ทุนนิยมแร้งกินซาก” มีประโยชน์อะไร ในเมื่อโมเดลการทำกำไรของทุนนิยมก็ประกอบไปด้วยการสกัดค่าเช่า และการทำลายมูลค่าหรือการขัดขวางการสร้างมูลค่ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว คำตอบของผมคือ ภายใต้ทุนนิยมแร้งกินซากหรือทุนนิยมการเงิน การขายปลดทรัพย์ (asset stripping) และการทำให้สินค้าบริการห่วยลง (enshittification) อันเป็นแหล่งสร้างกำไรหลัก ได้ทวีปริมาณขึ้นจนในเชิงคุณภาพแล้วเรียกได้ว่ามันเป็นระยะใหม่ของทุนนิยม [เน้นโดยผู้แปล] คนคนนั้นถามต่อว่า แต่ถ้านี่คือพัฒนาการระยะสุดท้ายของทุนนิยมซึ่งไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ การตั้งชื่อเฉพาะให้มันจะมีประโยชน์อะไรเพราะระยะสุดท้ายที่ว่าก็คือระยะสุดท้ายของตัว “ทุนนิยม” เอง ผมตอบไปว่า ถ้าคิดแบบนี้ เราก็ไม่ควรต้องมีชื่อเฉพาะไว้เรียกเด็กทารกหรือคนแก่เหมือนกัน เพราะทั้งหมดก็เป็นแค่ขั้นตอนหนึ่งของวัฏจักรชีวิตของมนุษย์ แต่การทำแบบนั้นย่อมจะทำให้ภาษามีประโยชน์น้อยลงด้วยในการบรรยายชีวิตของมนุษย์

ทำนองเดียวกัน ถ้าคุณเรียกกลุ่มขวาทางเลือกว่า “ฟาสซิสต์” โดยไม่ได้แยกแยะความแตกต่างอะไรให้ชัดเจน คุณก็จะขาดเครื่องมือทางความคิดในการจัดการกับลักษณะเด่นที่ไม่เหมือนใครของอุดมการณ์ฟาสซิสต์รูปแบบเฉพาะ ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาในโลกโซเชียลมีเดียในทศวรรษ 2000 ภายใต้อิทธิพลของวัฒนธรรมปฏิกิริยาใหม่และวัฒนธรรมเกม ดังตัวอย่างของริชาร์ด สเปนเซอร์ หรือ GamerGate

ย้อนกลับมาที่ตัวอย่างต้นเรื่องของเรา [ถ้าเรามองว่า]ฟาสซิสต์แบบทรัมป์ (Trumpian fascism) เป็นเพียงการแตกแขนงต่อยอดมาจากแนวโน้มแบบอำนาจนิยมอันเสื่อมทรามที่มีอยู่แต่เดิมในวัฒนธรรมอเมริกัน เราก็จะไม่สามารถจำแนกระดับของความอำนาจนิยมซึ่งถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ขบวนการทีปาร์ตี้และมาบรรจบที่ทรัมป์ ออกจากระดับของความอำนาจนิยมที่เคยมีอยู่ในประวัติศาสตร์อเมริกันก่อนหน้านี้ได้เลย ถ้าเราคิดทื่อๆ แค่ว่า “อเมริกาเป็นฟาสซิสต์มาโดยตลอด”เราจะใช้แนวคิดอะไรมาอธิบายรัฐบาลที่ทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติตั้งอยู่บนมุมมองแบบชมิทท์ และกลายเป็นคัมภีร์ชี้ทางให้คนอย่างออร์บาน, เออร์โดกัน และปูติน ในการพยายามทำลายความเป็นอิสระของศาลและองค์กรภาคประชาสังคมทั้งหมดอย่างเป็นระบบ ดังที่เบธโต้แย้งไปข้างต้น พวกฟาสซิสต์ใช้งานเครื่องมือแบบอำนาจนิยมที่มีอยู่แล้วในสังคม แต่ระดับของความเข้มข้นรุนแรงแตกต่างจากเดิมมาก

การเน้นย้ำถึงภัยฟาสซิสต์ที่เติบโตอย่างโดดเด่นในปัจจุบัน ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นแค่การแตกหน่อต่อขยายมาจากกระแสอำนาจนิยม ปิตาธิปไตย และลัทธิเหยียดเชื้อชาติอย่างเข้มข้น ซึ่งดำรงอยู่ตลอดประวัติศาสตร์ของประเทศเรา ตรงกันข้าม ข้อเท็จจริงที่ว่าลัทธิอำนาจนิยมระดับใหม่นี้เติบโตมาจากวัฒนธรรมอเมริกันเดิมทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าเราไม่อาจย้อนกลับไปสู่สภาพเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลงได้อีกต่อไป เมื่อลัทธิทรัมป์พ่ายแพ้ เราจะไม่มีวันกลับไปสู่ “ภาวะปกติ” ได้อีก เราจำเป็นต้องสานต่องานของการก่อสร้างฟื้นฟูใหม่ (Reconstruction) ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นเลยจนกระทั่งหลังสงครามกลางเมือง และสิ้นสุดลงก่อนที่จะได้เริ่มอย่างจริงๆ จังๆ ในช่วงการทรยศครั้งใหญ่ (Great Betrayal) ในปี 1877 เราต้องเผชิญหน้ากับวัฒนธรรมทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองที่เป็นพิษในสังคมของเรา ต้องเผชิญหน้ากับความอยุติธรรมเชิงโครงสร้างในระดับที่ใหญ่โตยิ่งกว่าการกวาดล้างนาซีในเยอรมนียุคหลังสงครามเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต

ดูเหมือนจะมีจุดร่วมที่อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญระหว่างนักเลงคียบอร์ดที่คอยพูดว่า “อเมริกา/ทุนนิยมเป็นฟาสซิสต์มาโดยตลอด” กับฝ่ายซ้ายหนุนเผด็จการ (tankie) สักแต่ต้านอเมริกา (campist) และพูดจาด่ากราด (Dirtbag) เช่นคนอย่างกรีนวาลด์, ดอร์ และทาอิบบี ซึ่งจริงๆ แล้วเกลียดเสรีนิยมและพวกสายกลางยิ่งกว่าที่เกลียดพวกฟาสซิสต์ คนกลุ่มนี้มีอะไรหลายอย่างที่คล้ายคลึงกับสตาลินยุคที่สาม (Third Period Stalin) ที่ออกมาโจมตีพรรคประชาธิปไตยสังคมนิยมว่าเป็น “ฟาสซิสต์สังคมนิยม” และสั่งห้ามไม่ให้พรรคคอมมิวนิสต์จับมือเป็นแนวร่วมกับพรรคดังกล่าว สิ่งนี้ส่งผลให้พรรคนาซี[ของเยอรมนี] ก้าวสู่อำนาจได้สะดวกขึ้น พร้อมทั้งผลักผู้ที่อาจจะเป็นแนวร่วมออกไปอีกเป็นจำนวนมาก ที่จริงแล้ว แม้คนกลุ่มนี้จะพูดว่า “อเมริกาเป็นฟาสซิสต์มาโดยตลอด” และ “พวกเสรีนิยมก็คือฟาสซิสต์” แต่พวกเขามักลงเอยด้วยการปฏิเสธว่าพวกฟาสซิสต์ตัวจริงเสียจริงไม่ใช่ฟาสซิสต์เสียอย่างนั้น นั่นจึงเป็นที่มาของความเกลียดชังเป็นพิเศษต่อ “พวกเสรีนิยมงี่เง่า” (shitlibs) และ “ชนชั้นผู้จัดการ-วิชาชีพ” (professional-managerial class) จนถึงขั้นที่พยายามเอาชนะคนกลุ่มนี้ด้วยข้อถกเถียงแบบฝ่ายขวา (เช่นหาว่าเป็นพวก “เกลียดทรัมป์จนเป็นบ้า” หรือ “หมกมุ่นกับคดี Russiagate จนเว่อไป”) เราเห็นสิ่งนี้ได้จากการพยายามแย่งกันไปเป็นแขกรับเชิญในรายการของทัคเกอร์ คาร์ลสัน จากการที่คนอย่างแมตต์ ทาอิบบี อาสาไปช่วยทำข่าว “Twitter files” ให้อีลอน มัสก์ ภายใต้ฉากหน้าความเป็นซ้าย แท้ที่จริงพวกเขากลับเป็นมิตรกับฟาสซิสม์เสียมากกว่า

ผลกระทบในทางปฏิบัติของการพูดว่า “อเมริกาเป็นฟาสซิสต์มาโดยตลอด” “ทุนนิยมเป็นฟาสซิสต์มาโดยตลอด” ก็ไม่ต่างอะไรจากพจนานุกรมฉบับที่สิบเอ็ดของ Newspeak ใน 1984 นั่นคือ มันทำให้เราสูญเสียความสามารถในการกล่าวถึงความเป็นจริงอย่างมีความหมาย หรือความสามารถในการลงมือเปลี่ยนมัน

C4SS relies entirely on donations. If you want to see more translations like this, please consider supporting us. Click here to see how

The Center for a Stateless Society (www.c4ss.org) is a media center working to build awareness of the market anarchist alternative


Source: https://c4ss.org/content/60820


Before It’s News® is a community of individuals who report on what’s going on around them, from all around the world.

Anyone can join.
Anyone can contribute.
Anyone can become informed about their world.

"United We Stand" Click Here To Create Your Personal Citizen Journalist Account Today, Be Sure To Invite Your Friends.

Before It’s News® is a community of individuals who report on what’s going on around them, from all around the world. Anyone can join. Anyone can contribute. Anyone can become informed about their world. "United We Stand" Click Here To Create Your Personal Citizen Journalist Account Today, Be Sure To Invite Your Friends.


LION'S MANE PRODUCT


Try Our Lion’s Mane WHOLE MIND Nootropic Blend 60 Capsules


Mushrooms are having a moment. One fabulous fungus in particular, lion’s mane, may help improve memory, depression and anxiety symptoms. They are also an excellent source of nutrients that show promise as a therapy for dementia, and other neurodegenerative diseases. If you’re living with anxiety or depression, you may be curious about all the therapy options out there — including the natural ones.Our Lion’s Mane WHOLE MIND Nootropic Blend has been formulated to utilize the potency of Lion’s mane but also include the benefits of four other Highly Beneficial Mushrooms. Synergistically, they work together to Build your health through improving cognitive function and immunity regardless of your age. Our Nootropic not only improves your Cognitive Function and Activates your Immune System, but it benefits growth of Essential Gut Flora, further enhancing your Vitality.



Our Formula includes: Lion’s Mane Mushrooms which Increase Brain Power through nerve growth, lessen anxiety, reduce depression, and improve concentration. Its an excellent adaptogen, promotes sleep and improves immunity. Shiitake Mushrooms which Fight cancer cells and infectious disease, boost the immune system, promotes brain function, and serves as a source of B vitamins. Maitake Mushrooms which regulate blood sugar levels of diabetics, reduce hypertension and boosts the immune system. Reishi Mushrooms which Fight inflammation, liver disease, fatigue, tumor growth and cancer. They Improve skin disorders and soothes digestive problems, stomach ulcers and leaky gut syndrome. Chaga Mushrooms which have anti-aging effects, boost immune function, improve stamina and athletic performance, even act as a natural aphrodisiac, fighting diabetes and improving liver function. Try Our Lion’s Mane WHOLE MIND Nootropic Blend 60 Capsules Today. Be 100% Satisfied or Receive a Full Money Back Guarantee. Order Yours Today by Following This Link.


Report abuse

Comments

Your Comments
Question   Razz  Sad   Evil  Exclaim  Smile  Redface  Biggrin  Surprised  Eek   Confused   Cool  LOL   Mad   Twisted  Rolleyes   Wink  Idea  Arrow  Neutral  Cry   Mr. Green

MOST RECENT
Load more ...

SignUp

Login